วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

คำถามเกี่ยวกับความรัก

คำถามกับความรัก


ทำไมคนเราต้องมีความรัก
เพราะเราทุกคนล้วนมีหัวใจ
.....
ไมคนเราจึงต้องโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา
เพราะเราต้องการใครสักคนมาช่วยดูแลหัวใจของเรา
.....
ทำไมคนเราถึงไม่เคยพอกับความรัก
เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรักใครคนเดียว
.....
ทำไมเขาถึงไม่รักเรา
เพราะเราและเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อรักกัน
.....
ทำไมคนบางคนถึงไม่เคยพบกับความรักสักที
เพราะเขาไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
.....
ทำไมคนบางคนถึงต้องอกหักอยู่บ่อยๆ
เพราะเขาปล่อยใจตัวเองตกหลุมรักอยู่ตลอดเวลา
.....
ทำไมคนบางคนไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
เพราะเขาอาจจะกำลังรอใครสักคนอยู่
.....
ทำไมคนบางคนไม่เคยสมหวังกับความรัก
เพราะเขาอาจจะยังไม่พบคู่แท้ของเขา
.....
ทำไมคนบางคนยังไม่พบคู่แท้ของเขา
เพราะว่าเขาอาจจะไม่ได้ตามหาเลยก็ได้
.....
ทำไมคนบางคนที่ไม่มีความรักจึงต้องทำตัวให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา
เพราะเขาไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจเมื่อไรนะสิ
......

ที่มาของเลขไทย(คิดไม่ถึง)

ที่มาของเลขไทย (น่าภูมิใจ ในภูมิปัญญา)
เราทุกคนคงมีประสบการเรียน และฝึกเขียนเลขไทยมาตั้งแต่เด็ก
เคยสงสัยไหมครับว่า ตัวเลขไทยที่เราเขียนกันนี้
เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นคนคิดค้น
มีคนส่งเมลล์มาให้ผมครับ น่าสนใจมาก จึงนำมาแบ่งปันให้กันดู
ลองดูกันครับว่า มันจะจริงเหมือนที่เขาว่าไว้ไหม

เขาบอกว่า
เลขไทยขอเราถูกสร้างมาจากรูปการทำมือทั้งสองข้างของเรานั่นเองครับ
คือ มือซ้าย มีเลข ๓, ๔, ๕, ๗, ๙
มือขวามี ๐, ๑, ๒, ๖, ๘

ดังภาพแสดงต่อไปนี้

ผู้หญิงกับกีฬา


ผู้หญิง กับกีฬา

1. หญิง อายุ 18-20 เหมือนลูกฟุตบอล ที่มี ผู้ชาย 20 คน คอยวิ่งไล่แย่งเธออยู่ตลอดเวลา
2. หญิง อายุ 21-25 เหมือนลูกบาสเก็ตบอล ที่มี ผู้ชาย 10 คน คอยวิ่งไล่แย่งเธออยู่ตลอดเวลา
3. หญิง อายุ 26-29 เหมือนลูกฮอกกี้ ที่มี ผู้ชาย 8 คน คอยวิ่งไล่ล่าเธออยู่ตลอดเวลา
4. หญิง อายุ 30-35 เหมือนปิงปอง ที่มี ผู้ชาย 2 คน พยายามตีเธอให้ออกไปจากเขา อยู่ตลอดเวลา
5. หญิง อายุ 36 เปรียบเสมือนลูกกอล์ฟ ที่มีผู้ชายเพียงคนเดียว ที่พยายามตีเธอให้สุดแรง เพื่อให้เธอออกห่างไปจากเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และถ้าตีแล้วลงหลุมเลย ก็ยิงดี (ใจร้ายจริงๆ)

ผู้ชายกับผลไม้


ผู้ชายกับผลไม่
1.ชาย อายุ 20 เหมือน มะพร้าว
เปลือกเยอะ เนื้อน้อย เรียกร้องมากมาย แต่ไม่ค่อยให้อะไรตอบแทน
2.ชายอายุ 30 เหมือนทุเรียน
หนุ่มแหลมคม ดูอันตราย แต่อร่อยที่สุด
3.ชายอายุ 40 เหมือนแตงโม
ลูกโต กลมกลิ้ง รอบจัด จับไม่ค่อยได้ ไล่ไม่ค่อยทัน แต่ให้น้ำแตงโมฉ่ำหวานชื่นใจ
4.ชายอายุ 50 เหมือนส้มแมนดาริน
ปีหนึ่งจะมีมาให้ลิ้มรสเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น
5.ชายอายุ 60 เหมือนลูกเกด
อดีตผลองุ่นที่ไม่มีน้ำองุ่นอีกแล้วตลอด อายุขัย หมดน้ำยา ยู่ยี่และเหี่ยวแห้งลงไปทุกวัน

วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

สังคมไทยกับการกลับสู่รากเหง้า

สังคมไทยกับการกลับสู่รากเหง้า
สังคมไทยปัจจุบันกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เรียกว่า “วิกฤตการพัฒนา” กล่าวคือ การพัฒนาสังคมไทยนับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา นอกจากจะไม่ช่วยพัฒนาให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้ว ยังกลับนำสังคมไทยให้ไปเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ และความซับซ้อนของปัญหาเก่าที่กำลังเรื้อรังอยู่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก วิกฤตการณ์ต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นรอบด้านในสังคมไทยปัจจุบันที่ส่งผลกระทบโดยตรงทั้งต่อสภาพชีวิตของประชาชนโดยภาพรวม และกระบวนการพัฒนาประเทศให้ต้องหยุดชะงักลงนั้น เป็นผลสะท้อนให้เราเห็นอย่างชัดเจนถึงความผิดพลาดและล้มเหลวมาโดยตลอดของกระบวนการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มีลักษณะขาดสมดุล ไม่ยั่งยืน และอ่อนไหวต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงและผันผวนของโลกในแต่ละยุค สภาวการณ์ดังกล่าวจึงเรียกร้องให้สังคมไทย ณ เวลานี้จำเป็นต้องหวนกลับมาทบทวนตัวเองเสียใหม่ เพื่อแสวงหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อใช้แก้ไขปัญหา และแสวงหาแนวทางในการปฏิรูปสังคมสู่การพัฒนาแบบยั่งยืนอย่างแท้จริง


นับตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันสังคมไทยได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อเริ่มมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2504 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มสำคัญในการก้าวเข้าสู่กระแสโลกยุคใหม่ของสังคมไทยอย่างเต็มตัวภายใต้กระแสแห่งยุคโลกาภิวัตน์ ที่ถูกขับเคลื่อนโดยระบบทุนเสรีนิยม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบโครงสร้างของสังคมไทยอย่างถึงรากถึงโคน ตลอดช่วงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตั้งแต่ฉบับแรกเป็นต้นมา ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า การพัฒนาประเทศของไทยยังคงใช้ระบบการแบบลองผิดลองถูก และมองสังคมแบบแยกส่วน โดยเฉพาะแผนฯที่1-7 ที่กำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศให้มุ่งเน้นการสร้างความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าผลของการพัฒนาจะสร้างความเจริญเติบโตให้สังคมไทยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่อาจสามารถบรรลุเป้าหมายโดยแท้ของการพัฒนา เพราะหาได้สร้างเสถียรภาพอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้นแก่สังคมแม้แต่น้อยเลยไม่ ยิ่งกว่านั้นผลจากการพัฒนาที่ไม่สมดุลยังส่งผลกระทบในทางลบ ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องประสบกับทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาทางสังคมและวัฒนธรรมในเวลาต่อมา ดังที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2539: 2, 5-6; 2543, 1-4) ได้ยอมรับข้อเสียหายของประเทศจากผลการพัฒนาโดยได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศเมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 7 – 8 ไว้อย่างชัดเจนว่า การมุ่งเน้นการแข่งขันเพื่อสร้างความมั่นคงในด้านรายได้นั้นทำให้คนไทยและสังคมไทยมีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น จนก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหลายประการ โดยเฉพาะความยากจน ที่ได้แผ่ขยายวงกว้างออกไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาความเสื่อมทางด้านศีลธรรม จริยธรรม และระเบียบวินัย การเอารัดเอาเปรียบกันในสังคม การจางหายไปของวิถีชีวิตและค่านิยมดั้งเดิมที่ดีงามของคนไทย การล่มสลายของสถาบันครอบครัว ชุมชน และวัฒนธรรมท้องถิ่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม ปัญหาความแออัดของชุมชนเมือง ปัญหาสุขภาพ สภาพสังคมที่มีปัญหาเพิ่มขึ้น สถิติการฆ่าตัวตายและจำนวนผู้กระทำผิดทางกฎหมายมีอัตราสูงขึ้น เป็นต้น การพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ผ่านมายังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศอย่างกว้างขวางอีกด้วย เช่น ท่านธรรมปิฎกซึ่งได้วิจารณ์การพัฒนาประเทศที่ผ่านมาว่าทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา เพราะกระบวนการพัฒนาเป็นกระบวนการแบบข้ามขั้นตอน ขาดการพัฒนาฐานรากที่มั่นคงซึ่งเป็นช่องทางให้เกิดผลกระทบในทางลบตามมา นอกจากนี้ความรู้เท่าไม่ถึงการพัฒนายังได้ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในฐานะหนี้สินล้นพ้นตัว สูญเสียทรัพยากร สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และวัฒนธรรมล่มสลาย เป็นต้น (สุพิศวง ธรรมพันทา. 2547: 225) ปัญหาต่างๆ ที่ได้ถูกกล่าวมาแล้วนั้น บัดนี้ ได้กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ยืดเยื้อและยังคงกำลังเรื้อรังอยู่ในสังคมปัจจุบันจนก่อเกิดเป็นวิกฤตการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของไทยเท่าที่เคยประสบมาเลยก็ว่าได้ วิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นเช่น วิกฤตทางเศรษฐกิจ วิกฤตสังคม วิกฤตการเมือง วิกฤตศาสนา วิกฤตวัฒนธรรม และวิกฤตธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เป็นต้น จากสภาวการณ์ดังกล่าวสังคมไทยจึงตกอยู่ในสภาพเหมือนเหมือนเรือที่ลอยวนแบบไร้ทิศไร้ทางท่ามกลางกระแสคลื่นที่พัดโหมเข้าใส่อย่างรุนแรงรอบด้าน ทำให้นักคิดนักวิชาการหลายคนต่างมีความเห็นพร้องต้องกันว่าถึงเวลาแล้วที่สังคมไทย ณ เวลานี้จำเป็นต้องทำการ “ปฏิรูป” อย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤต และหันกลับมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมแบบยั่งยืน ซึ่งเพื่อที่จะมุ่งสู่ความยั่งยืนได้ก็ต้องโดยอาศัย “การกลับคืนสู่รากเหง้า” เท่านั้น


ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงมีความสนใจเป็นพิเศษต่อแนวคิดกลับคืนสู่รากเหง้า และมีความต้องการที่จะทำการศึกษาค้นคว้าและรวบรวมแนวความคิดดังกล่าวเพื่อจะได้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า แนว ความคิด “กลับคืนสู่รากเหง้า” แท้ที่จริงแล้วคืออะไรกัน? จริงหรือ?..ที่สังคมไทย ณ เวลานี้จำเป็นต้องกลับคืนสู่รากเหง้า และถ้าจำเป็นเช่นนั้นจริง แล้วอะไรเล่าคือรากเหง้าที่สังคมไทยต้องกลับไป? และเราจะปฏิรูปสังคมไทยโดยอาศัยการกลับคืนสู่รากเหง้านี้ได้อย่างไร? การศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดอย่างลึกซึ้งจึงมีความจำเป็นและสำคัญเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจแนวความคิดกลับคืนสู่รากเหง้าได้อย่างถูกต้องและมีมุมมองที่เปิดกว้าง สามารถบูรณาการแนวความคิดกลับคืนสู่รากเหง้าเพื่อการปฏิรูปสังคมไทยในปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมอย่างแท้จริง


จากการศึกษาพบว่าสังคมไทยปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากกระบวนทัศน์การพัฒนาประเทศชาติที่มีความบกพร่อง และเสียสมดุลในอดีตที่ผ่านมา ได้ทำลายคุณค่าและรากฐานต่างๆ ที่สำคัญของสังคมไทยให้พังมลายเสื่อมสลายลงไป เพราะกระบวนทัศน์ดังกล่าวเป็นกระบวนทัศน์การพัฒนาที่มองสังคมไทยแบบแยกส่วน อีกทั้งยังเป็นกระบวนทัศน์การพัฒนาที่มิได้คำนึงถึงความสอดคล้องกับอัตลักษณ์ บรรทัดฐาน และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนไทย จึงนำไปสู่วิกฤตการพัฒนาที่ก่อให้เกิดปัญหาและวิกฤตการณ์อื่นๆ ตามมาอย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้แนวความคิดกลับคืนสู่รากเหง้าจึงถูกนำเสนอขึ้นเป็นคำตอบและแนวทางปฏิรูปสำหรับสังคมไทยในปัจจุบันเพื่อจะได้สามารถผ่านพ้นจากวิกฤตการณ์ และกลับมาสู่ทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปได้ โดยการนำเสนอแนวความคิดของบรรดานักปฏิรูปและนักปรัชญาต่างๆ ได้แก่ ฌอง-ฌาครุสโซ ขงจื้อ นักปรัชญาสำนักเต๋า มาซาโนบุ ฟูกูโอกะ มหาตมะคานธี ท่านพุทธทาสภิกขุ พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งนักวิชาการต่างๆ ของไทย ทำให้สังคมไทยตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องกลับ ต้องถอย และต้องหวนคืนสู่รากเหง้าที่แท้จริงของตน คือ รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ รากเหง้าทางกายภาพ (ทรัพยากร/ธรรมชาติ) รากเหง้าทางศาสนาวัฒนธรรมและภูมิปัญญา รากเหง้าทางสังคม และรากเหง้าของแต่ละปัจเจกบุคคล ซึ่งรากเหง้าทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นคุณค่า เป็นอัตลักษณ์ เป็นศักยภาพ และเป็นสาระแท้จริงของสังคมไทย ที่ทั้งระดับปัจเจกบุคคลและระดับสังคมโดยรวมจำเป็นจะต้องกลับไปแสวงหา เรียนรู้ ฟื้นฟูให้กลับมาเข้มแข็งและมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และประยุกต์สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ให้เหมาะสมกับยุคสมัยในปัจจุบัน การกลับคืนสู่รากเหง้าของสังคมไทยจึงเป็นแนวทางปฏิรูปสังคมที่นำไปสู่การเรียนรู้จักตนเองและสังคมไทยอย่างถ่องแท้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างรากฐานรวมทั้งภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้แก่สังคมไทย และช่วยให้สังคมไทยสามารถผ่านพ้นจากวิกฤตการณ์ และนำไปสู่กระบวนการพัฒนาและเจริญเติบโตของบุคคลรวมทั้งสังคมให้สามารถดำเนินสืบเนื่องต่อไปได้อย่างมีสมดุล ยั่งยืน และมีเสถียรภาพอย่างแท้จริง

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

บทกลอนชวนคิด

กินกับถ่าย
กินไม่ถ่ายมีหวังตายมลายสิ้น
ถ่ายไม่กินต้องตายดิ้นสิ้นสงสัย
กินกับถ่ายต้องมีอยู่คู่กันไป
ไม่ว่าใครต้องถ่าย..กิน..จนสิ้นลม

กลอน..สื่อ

รู้เท่าทันสื่อ
สื่อนั้น มีมาก หลากหลาย
ทั้งสื่อดี สื่อร้าย คละผสม
จะดู จะเชื่อ หรือจะชม
จักต้องตรอง อย่างเหมาะสม ก่อนอื่นใด
รู้เท่า ทันสื่อ คือสำคัญ
ยึดมั่น ถือมั่น จำไว้
จักได้ ไม่ถูก สื่อจูงไป
เหมือนกับตัว อะไร ไปคิดเอง
Michelejoe

แด่..ทุกคนที่เป็นเพื่อน


** คน ที่เป็น เพื่อน **
** ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีฐานะเท่าเทียมกัน ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าเทียมกัน ถ้าคิดแบบนั้น คุณจะไม่มีเพื่อนแท้ดีๆเลยสักคน
คนที่เป็นเพื่อน..ต้อง..

คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง
คอยฟัง ยามเพื่อนขอ
คอยรอ ยามเพื่อนสาย
คอยพาย ยามเพื่อนพัก
คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์
คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ ยามเพื่อนงอน
คอยสอน ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ
คอยเจอ ยามเพื่อนหา
คอยลา ยามเพื่อนกลับ
คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว
คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน
คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ
คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
คอยคิด ยามเพื่อนถาม
คอยปราม ยามเพื่อนหลง
คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง
คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
คอยอด ยามเพื่อนทาน
คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
คอยชม ยามเพื่อนชนะ
คอยสละ ยามเพื่อนชอบ

เพื่อนที่รักเราหาไม่ง่ายเลย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดีดี รักกันไว้ให้มาก ๆ ไม่มีอีกแล้วถ้า เราเสียเพื่อนที่ดีไปเพราะ แค่เหตุผล โง่โง่

คิดคิดคิด

The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes.”
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง
“He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all.”
เขา..ผู้สูญสิ้นทรัพย์สินไปเขา..สูญเสียมากเหลือเกินเขา..ผู้สูญสิ้นเพื่อนไปเขา..สูญเสียมากกว่าเขา..ผู้สูญสิ้นความศรัทธาเขา..ผู้นั้น.. สูญเสียยิ่งกว่าใครๆ
“No bird soars too high if he soars with his own wings.”
ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไปถ้ามันบินด้วยปีกของมันเอง
“Obstacles are those frightful things you seewhen you take your eyes off your goals.”
อุปสรรคคือสิ่งที่น่าตกใจก็ต่อเมื่อคุณไม่ได้มองไปที่จุดหมายปลายทาง
“The only man who never makes mistakes is the man who never does anything.”
คนที่ไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
“Even a Step back can be fatal.”
แม้แต่การก้าวถอยหลังก็อาจถึงแก่ชีวิตได้
“There is Nothing so Sweet as Love’s Young Dreams!”
ไม่มีสิ่งใดจะหอมหวานเท่ากับความฝันในวัยเยาว์
“To follow, without halt, one aim: There is the secret of success.”
เคล็ดลับของความสำเร็จคือการเดินทางอย่างต่อเนื่องไปสู่จุดมุ่งหมาย
There is a magnet in your heart that will attract true friends. That magnet is unselfishness,thinking of others first. When you learn to live for others, they will live for you.
มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจของคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้ แม่เหล็กชนิดนี้คือ ความไม่เห็นแก่ตัวและการคิดถึงคนอื่นก่อน เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
Remember to always dream. More importantly to make those dreams come true and never give up.จงฝันอยู่เสมอ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ทำความฝันนั้นให้เป็นความจริง และอย่ายอมแพ้
“You get the best out of others when you give the best of yourself.”“คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป”
“Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.”บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ
“Great minds discuss ideas; Average minds discuss events;Small minds discuss people.”จิตใจที่ยิ่งใหญ่วิพากย์วิจารณ์ความคิด จิตใจสามัญวิพากวิจารณ์เหตุการณ์ แต่จิตใจที่ต่ำต้อยนั้นวิจารณ์เพียงผู้คน
“If you always do what interests you, then at least one person is pleased.”ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ
It is only in adventure that some people succeed in knowing themselves–in finding themselves.มีแต่ในการผจญภัยเท่านั้น ที่บางคนประสบความสำเร็จในการรู้จักตัวเอง นั้นคือ การค้นพบตัวเอง
If men cease to believe that they will one day become gods then they will surely become worms.เมื่อมนุษย์เลิกเชื่อว่าวันหนึ่งเค้าจะกลายเป็นพระเจ้า เมื่อนั้น เค้าจะเป็นแค่หนอนตัวหนึ่งเท่านั้น
Let not the sun go down upon your wrath.อย่าให้พระอาทิตย์ตกลงไปพร้อมกับความโกรธของคุณ
The best and most beautiful things in the world cannot be seen or even touched.They must be felt with the heart.สิ่งที่ดีและสวยงามที่สุดในโลก มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ แต่จะรู้สึกได้จากหัวใจ
“Do what you can, with what you have, where you are.”ทำในสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ พร้อมกับสิ่งที่คุณมีและที่ที่คุณอยู่
“God gives every bird it’s food, But He does not throw it into it’s nest”.พระเจ้ามอบอาหารให้แก่นกทุกตัว แต่ไม่เคยโยนอาหารให้ถึงรังของนกเหล่านั้น
“When life is giving you a hard time, try to endure and live through it.You must never run away from a problem.Convince yourself that you will survive and get to the other side.”เมื่อ คุณเห็นการมีชีวิตเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัส ลองพยายามอดกลั้นและต่อสู้กับมัน จงอย่าวิ่งหนีต่อปัญหาใดๆที่คุณเผชิญอยู่ และเชื่อใจในตัวเองว่าสองมือของคุณสามารถทำให้คุณฝ่าฟันช่วงวิกฤตและผ่านมัน ไปได้
“Life is like a box of choclates.”ชีวิตก็เหมือนกล่องใส่ชอกโกแลตที่มีหลากหลายสีสันและรสชาติ
“A person who lives right, and is right, has more power in their silencethan another has by words.”บุคคลที่มีชีวิตอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมแม้อยู่ในความเงียบก็แลมีอำนาจกว่าผู้อื่น
“It is never too late to be what you might have been.”ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปที่จะเป็นในสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
“Praise the bridge that carried you over.”จงขอบคุณสะพานที่ให้คุณเดินข้ามมา
“Learn from the mistakes of others.You can’t live long enough to make them all yourself.”จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นเพราะเราไม่สามารถเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นได้ทั้งหมดในช่วงชีวิตของเราเอง
“If you don’t stand for something, you’ll fall for anything.”ถ้าคุณไม่อดทนต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณก็จะล้มหลวในทุกๆสิ่ง
“Who never made a mistake never made a discovery.”คนที่ไม่เคยกระทำผิดคือคนที่ไม่ได้ค้นหาสิ่งใด
“Thinking: The talking of the soul with itself.”การคิด คือ การพูดของวิญญาณกับตัวมันเอง
Heaven never helps the men who will not act.สวรรค์ไม่ช่วยคนเกียจคร้าน
Move out man! Life is fleeting by.Do something worthwhile, before you die.Leave behind a work sublime,that will outlive you and time.อันชีวิตคนเราช่างสั้นนักต้องรู้จักทำประโยชน์ก่อนจะสายทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์หลังความตายมีความหมายคงอยู่ ตลอดไป
Only those who dare to fail greatly can ever achieve greatly.คนที่กล้าจะจะพ่ายแพ้เท่านั้น ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
The ripest peach is highest on the tree.ลูกพีชที่สมบูรณ์ที่สุดอยู่สูงที่สุดบนต้น
Beware of small expenses; a small leak will sink a great ship.จงระวังสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยรั่วเล็กๆ อาจจะทำให้เรือใหญ่ล่ม
Age does not protect you from love. But love, to some extent, protects you from age.อายุป้องกันคุณจากความรักไม่ได้ แต่ความรัก ในจำนวนที่พอเหมาะ ปกป้องคุณจากอายุได้
When you go in search of honey you must expect to be stung by bees.เมื่อคุณต้องการน้ำผึ้ง คุณต้องรู้ว่า คุณจะถูกผึ้งต่อย
And he that strives to touch the stars,Oft stumbles at a straw.คนที่พยายามจะสัมผัสดวงดาว มักจะพลาดกับสิ่งเล็กน้อย
It takes two flints to make a fire.ต้องใช้หินถึง2ก้อนถึงจะเกิดไฟได้
We boil at different degrees.คนเรามีจุดเดือดไม่เท่ากัน
“Nature is as complex as it need to be…. and no more.”ธรรมชาติซับซ้อนเท่าที่มันจำเป็น…ไม่มากกว่านั้น
Seize the day. Make your lives extraordinary.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วชีวิตคุณจะไม่ธรรมดา
If we do not find anything very pleasant, at least we shall find something new.ถึงแม้ว่าเราจะไม่พบสิ่งที่พอใจ อย่างน้อย เราก็จะได้เจอสิ่งใหม่ๆ
You can fool all the people some of the time, and some of the people all the time,but you cannot fool all the people all the time.คุณหลอกคนทุกคนได้ในบางเวลา และหลอกบางคนได้ตลอดเวลา แต่ คุณไม่สามารถหลอกทุกคนได้ตลอดเวลา
“He who knows little often repeats it.”ใครที่รู้อะไรเพียงนิดหน่อยก็มักจะคุยโวถึงมัน
“Progress always involves risk. You can’t steal second with your foot on first.”พัฒนาการจะมีเรื่องของความเสี่ยงมาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ คุณจะไม่สามารถขโมยเบสสอง ได้เลย ถ้าเท้ายังแตะเบส 1 อยู่
“Do or do not; there is no try.”การตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำ ไม่ต้องใช้พยายามแต่อย่างใด
“Wealth is like Sea Water:The more you drink the more thirsty you get.”ความร่ำรวยเปรียบเหมือนน้ำทะเล ยิ่งดื่มมาเท่าไหร่ก็ยิ่งกระหายมากขึ้นเท่านั้น
“We write our own destiny. We become what we do.”ตัวเราเองที่กำหนดพรหมลิขิตและเราจะเป็นในสิ่งที่เราได้กระทำ
“Well done is better than well said.”การลงมือทำดีกว่าคำพูดที่สวยหรู
“Life moves pretty fast…if you don’t stop to look around once in a while, you might miss it.”ชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณไม่หยุดและมองไปรอบๆบ้าง คุณอาจจะพลาดบางอย่างไป
Nobody has Wisdom if he does not know the Dark.ไม่มีใครฉลาดโดยปราศจากการได้รู้จักความโง่เขลามาก่อน
“You don’t get harmony when everybody sings the same note.”คุณจะไม่สามารถหาความกลมกลืนได้ เมื่อทุกคนร้องเพลงด้วยโน้ตตัวเดียวกัน
“Great minds must be ready not only to take opportunity, but to make them.”ความคิดที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่แต่เตรียมพร้อมต่อโอกาส แต่ยังพร้อมที่จะลงมือทำ
“Thinking: The talking of the soul with itself.”การคิด คือ การพูดของวิญญาณกับตัวมันเอง
“Do not be too timid and squeamish about your actions. All life is an experiment.”อย่าขาดความมั่นใจในตัวเอง และตระหนกตกใจในสิ่งที่คุณทำ ทุกๆสิ่งคือประสบการณ์
“This year’s success was last year’s impossibility.”ความสำเร็จของปีนี้ คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในปีที่ผ่านมา
Our deeds determine us, as much as we determine our deeds.”การกระทำตัดสินเราเท่าๆกับที่เราตัดสินใจกระทำ
“The difference between the impossible and the possiblelies in a man’s determination.”เส้นบางๆที่คั่นระหว่างความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้คือการตัดสินใจของเรา
“It is not fair to ask others what you are not willing to do yourself.”ไม่ยุติธรรมเลยที่คุณจะขอร้องให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณไม่ต้องการทำ
“Only two things are infinite, the universe and human stupidity,and I’m not sure about the former.”มี เพียงสองสิ่งเท่านั้นที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ สิ่งหนึ่งคือจักรวาล และอีกสิ่งคือความโง่เขลาของมนุษย์ ทว่าฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น
“Advice is like snow; The softer it falls the longer it dwells upon,and the deeper it sinks into, the mind.”คำแนะนำเหมือนหิมะที่โปรยปรายลงมา ยิ่งบางเบาเพียงใดก็ยิ่งแตะเพียงเปลือกนอก และยิ่งหนักหนาเท่าใดก็ยิ่งลึกถึงความรู้สึกเท่านั้น
“The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi.”ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว
“Life remains the same until the pain of remaining the samebecomes greater than the pain of change.”ชีวิตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง
“There is nothing either good or bad but thinking makes it so.”ไม่มีสิ่งใดๆในโลกที่ดีหรือเลว มีแต่ความคิดของเราเท่านั้นที่ทำให้เกิดความดีและความเลว
“The only thing in life achieved without effort is failure.”มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
“You see things and you say, ‘Why?’!But I dream things that never were; and I say, ‘Why not?”คุณเห็นบางสิ่งบางอย่าง คุณจะพูดว่า”ทำไม” ในขณะที่ฉันได้เห็นความฝันของฉันซึ่งไม่เคยเป็นไปได้ ฉันพูดว่า “ทำไมถึงไม่มีสิ่งนั้นล่ะ”
“Forgive your enemies, but never forget their names.”จงยกโทษให้แก่ศัตรูของคุณ แต่อย่าลืมชื่อของพวกเขาเป็นอันขาด
“If you want to increase your success rate,double your failure Rate.”ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จมากขึ้นหนึ่งเท่าตัว จงเพิ่มความล้มเหลวเป็นสองเท่าตัว
“Life is a big canvas and you should throw all the paint you can on it.”ชีวิตเหมือนภาพเขียนขนาดใหญ่และคุณควรจะใช้สีทั้งหมดที่คุณมีสร้างสรรค์มันขึ้นมา
“The reward of a good thing well done is to have it done.”
รางวัลของสิ่งที่เรียกว่ายอดเยี่ยมคือการได้สร้างมันขึ้นมา
“Imagination is more important than knowledge.”
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ที่มี
“First say to yourself what you would be, and then do what you have to do.”
สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งใจกับตัวเอง และลงมือทำ
“The future belongs to those who believe in the beauty of their dreams.
อนาคตเป็นของคนที่เชื่อในความฝันของตัวเองเท่านั้น
“Freedom is nothing else but a chance to do better.”
อิสรภาพ ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นเลย หากแต่คือโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น
“Glory in life is not in never failing, But rising each time we fail.”
ความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่การที่ไม่เคยพ่ายแพ้ หากแต่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ล้มลง

ข้อคิดดีดีจากอาจารย์นักปรัชญา

ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชนเพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโทเขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่ายๆแต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด

เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม'
พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?' เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน'เต็มแล้ว...'

เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจหยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเทกรวดเม็ดเล็กๆจำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆกรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่เหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก“เหยือกเต็มหรือยัง?'
นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ 'เต็มแล้ว...'

เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมาและเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทรายไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดายเขาเทจนทรายหมดถุงเขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง “เหยือกเต็มหรือยัง?'

เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากันปรึกษากันอยู่นาน
หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆมองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง
มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน

จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาทีหัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น“คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์'

“แน่ใจนะ' “แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ' คราวนี้เขาหยิบน้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด
ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง' เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น

“ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิตการเรียน สุขภาพ ลูก พ่อแม่และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริงจังสูญเสียไปไม่ได้

เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำแต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้

เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อนคุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวดไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน'

ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า

เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิตเราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุขใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกายพาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกายเล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตพาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อนหรือทานข้าว โทรศัพท์หาเพื่อนบ้างให้รู้ว่าเรายังคิดถึงและเป็นห่วงเราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ

ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมดหลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ

ตัวเรานักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม “แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับหมายถึงอะไร?'

เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า “การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่าไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใดในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ...'

แล้วเหยือกของคุณล่ะเต็มหรือยัง